ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สปส.เพิ่มช่องทางจ่ายเงินประโยชน์ทดแทน สะดวก รวดเร็ว ทุกแห่งทั่วไทย

สปส.เพิ่มช่องทางจ่ายเงินประโยชน์ทดแทน สะดวก รวดเร็ว ทุกแห่งทั่วไทย
สำนักงานประกันสังคม ลงนามบันทึกข้อตกลงการจ่ายเงินกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนผ่านธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
          นายโกวิท สัจจวิเศษ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำกนังานประกันสังคมให้ความสำคัญของการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว โดยพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ด้านเศรษฐกิจและสัมคมตลอดมา เช่น การเพิ่มสิทธิประโยชน์ การเพิ่มช่องทางการรับจ่ายเงิน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อนายจ้าง ผู้ประกันตน และการดำเนินการจ่ายประโยชน์ทดแทนแก่ผู้ประกันตนโดยได้พัฒนาช่องทางการให้บริการผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมิต้องเดินทางมาติดต่อ ณ สำนักงานฯ ด้วยตนเอง เพียงยื่นคำขอรับเงินประโยชน์ทดแทน หรือขอรับเงินสมทบ พร้อมสมุดบัญชีเงิยฝากออมทรัพย์ มายังธนาคารที่เข้าร่วมให้บริการกับสำนักงานประกันสังคมเดิมมี 9 แห่ง คือ

-ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
-ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
-ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
-ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
-ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
-ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
-ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
-ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
-ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน)

ซึ่งในขณะนี้ได้รับความร่วมมือเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ
-ธนาคารออมสิน และ
-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
ในการเข้าร่วมโครงการจ่ายเงินกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนผ่านธนาคาร

          ปัจจุบันมีธนาคารที่ให้บริการจ่ายเงินผ่านธนาคารทั้งิ้น 11 แห่ง 7868 สาขาทั่วประเทศ ให้บริการผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิ โดยเพียงถ่ายสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่มีชื่อผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิและรับรองสำเนา แนบพร้อมคำขอรับประโยชน์ทดแทนหรือแบบคำขอรับเงินคืน แล้วแต่กรณี ส่งให้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขาที่ท่านสะดวกทั่วประเทศ ทางไปรษณีย์ หรือ มอบฝ่ายบุคคลรวบรวมส่งให้สำนักงานประกันสังคมโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการโอนเงินใดๆ (ยกเว้นกรณีบำนาญชราภาพ) ซึ่งผู้ประกันตนจะได้รับเงินโอนเข้าบัญชี ดังนี้
          1. การขอรับสิทธิประโยชน์เมื่อเกิดสิทธิเป็นครั้งๆ ไป เช่น กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน กรณีทันตกรรม กรณีเสียชีวิต กรณีคลอดบุตร กรณีบำเหน็จชราภาพ กรณีการขอรับคืนเงินสมทบ จะได้ับเงินภายใน 5 วัน ทำการนับแต่วันที่ได้รับอนุมัติ
          2. การได้รับสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน เช่น กรณีสงเคราะห์บุตรได้รับเงินตั้งแต่บุตรแรกเกิดจนบุตรมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ กรณีว่างงานได้รับเงิน 3 เดือน หรือ6 เดือน (แล้วแต่กรณี) กรณีทุพพลภาพ หรือกรณีบำนาญชราภาพได้รับเงินตลอดชีวิต สำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินเข้าบัญชี ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งปัจจุบันการได้รับสิทธิอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกันตนแสดงความจำนงโอนผ่านธนาคารทั้งหมด

          ดังนั้นเพื่อให้นายจ้าง ผู้ประกันตน ได้รับความสะดวก รวดเร็ว มิต้องเสียเวลาในการรอคอย สำนักงานประกันสังคมขอความร่วมมือผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิรับเงินแสดงความจำนงขอรับเงินผ่านธนาคาร ซึ่งสำนักงานประกันสังคมมีนโยบายในการวางระบบการรับ - จ่ายเงินผ่านธนาคารและหน่วยบริการอื่น แทนการรับ - จ่ายเงิน ณ สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม สำกนังานประกันสังคมได้มีการพัฒนาช่องทางการให้บริการต่างๆ เช่น การจ่ายเงินสมทบผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือเคาน์เตอร์แจ๋ว (DTAC) เป็นต้น และอยู่ระหว่างพัฒนาช่องทางในการจ่ายเงินให้เกิดความสะดวกยิ่งขึ้นต่อไป

หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วนประกันสังคม 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรงให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th



---------------------------------------------------------------------
ศูนย์บริการร่วมกระทรวงแรงงานจังหวัดกระบี่
กลุ่มงานยุทธศาสตร์ - สำนักงานแรงงานจังหวัดกระบี่
0-7566-8143

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สรุปผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ พ.ศ.2567

ผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานให้บริการประชาชน ณ จุดให้บริการงานศูนย์บริการร่วมกระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานแรงงานจังหวัดกระบี่ โดย นา...